นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566
บริษัท โรงแรมรามายานา เกาะช้าง รีสอร์ท จำกัด หรือ โรงแรมอัญณิการ์ เกาะช้าง เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ธัญ โฮลดิ้ง จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองความเป็นส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของบริษัท (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ที่อาจมีขึ้นในอนาคต (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงกำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (Privacy Policy) (“นโยบาย”) เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นไปตามและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1 ข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล ซึ่งมีความละเอียดอ่อนและอาจมีความสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
- ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด อาชีพ เพศ สถานภาพสมรส รูปถ่าย สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง หนังสือตรวจลงตรา (Visa) หรือข้อมูลยืนยันตัวตนอื่นที่รัฐออกให้
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่ไปรษณีย์ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชีสื่อสังคมออนไลน์
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัตรเครดิตและบัตรเดบิต และชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียดของบัตร
- ข้อมูลการเดินทาง เช่น กำหนดการเดินทาง กลุ่มทัวร์ ข้อมูลกิจกรรม ข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศ
- ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP address ของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน ข้อมูลเบราว์เซอร์และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท เช่น ประวัติในการเยี่ยมชม ค้นหา การตั้งค่าภาษา และปฏิสัมพันธ์ของท่านกับเว็บไซต์ของบริษัท
- ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเคยซื้อ ใช้ พิจารณา หรือแนวโน้มการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของท่าน
- ข้อมูลอื่น ๆ ตามที่บริษัทได้แจ้งในประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ต่อท่านในแต่ละกิจกรรมที่ท่านทำกับบริษัท
2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น บริษัทจะเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมเป็นหนังสือ หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนดำเนินการดังกล่าว
2.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทจะจัดเก็บจากท่านโดยตรง และ/หรือ จากแหล่งอื่นตามที่บริษัทได้แจ้งในประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) และบริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.3 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวมและการประมวลผลเว้นแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวนั้นจะเป็นไปตามข้อยกเว้นตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นกำหนด
2.4 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพื่อแจ้งรายละเอียดดังต่อไปนี้ต่อท่าน
- วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะทําการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
- ระยะเวลาที่บริษัทจะทําการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- ในกรณีที่ท่านมีความจําเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทําสัญญา หรือทําธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท บริษัทจะต้องแจ้งถึงผลกระทบที่อาจเป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านทราบด้วย
- ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
- สิทธิของท่านในการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะกระทำโดยชัดแจ้ง ง่ายต่อการเข้าใจ และไม่เป็นการหลอกลวง หรือทำให้เข้าใจผิด
3 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งและได้รับความยินยอมจากท่าน และกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็น
3.2 ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลที่สาม บริษัทจะจัดทำข้อตกลงหรือสัญญากับผู้ที่รับหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
3.3 ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากันกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่ำว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านก่อนส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
3.4 บริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามที่บริษัทได้แจ้งไว้แก่ท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท
4 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 บริษัทจะจัดให้มีกฎ ระเบียบ และมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลและการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
4.2 บริษัทจะจัดให้มีฝึกอบรมพนักงานของบริษัท เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อให้พนักงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจในหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4.3 บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนในกรณีที่กฎหมายเปลี่ยนแปลงไป และปรับปรุงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ
5 สิทธิของท่านในการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 สิทธิในการได้รับการแจ้งจากบริษัทให้ทราบถึงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
5.2 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้าการเพิกถอน
5.3 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน รวมถึงการขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอมไว้
5.4 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อบุคคลใด
5.5 สิทธิในการแจ้งให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
5.6 สิทธิในการระงับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
5.7 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ซึ่งโดยสภาพสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
5.8 สิทธิในการคัดค้าน การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
5.9 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัท พนักงานของบริษัท หรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการติดต่อที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของท่านได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้
6 การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย ให้ท่านทราบก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทที่ https://www.annikakohchang.com
7 การติดต่อสอบถาม หรือแจ้งเหตุละเมิด หรือใช้สิทธิ
บริษัท ธัญ โฮลดิ้ง จำกัด
ที่อยู่: 1643/4 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์: 02 254 8650
อีเมล: thungroup-dpo@thunholding.com